Coldline เป็นผู้นำในเทคโนโลยีตู้ Blast Chiller/Shock Freezer ของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการทำความเย็นรวดเร็วชั้นนำของโลก จากประสบการณ์กว่า30 ปี เครื่องแช่เยือกแข็ง (Blast Freezer/ Shock Freezer) /การแช่เย็นแบบรวดเร็ว (Blast Chiller) ช่วยเก็บรักษาความสดและคุณภาพของวัตถุดิบต่างๆไว้ได้ดีกว่าเครื่องแช่แข็งแบบปกติทั่วไป เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ปรุงแล้ว เป็นเทคโนโลยีที่โรงงานอาหาร หรือร้านอาหารชั้นนำเลือกใช้ในการลดอุณภูมิอาหารที่ปรุงสุกอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารไว้สูงสุด โดยที่รสชาติ สี เนื้อสัมผัส สารอาหาร คงเดิมที่สุด เพราะอาหารที่ดีที่สุด คืออาหารที่เพิ่งปรุงสุก โดยกระบวนการทำงานจะเป็นการให้ความเย็น -40°c พร้อมกับตีแรงลมเพื่อดึงเอาความร้อนออกจากอาหารให้เร็วที่สุด
Size cm (WxDxH): 140x70x95
Weight (KG): 165
Power (Watts): 2084
Voltage: 220-240 V – 50 Hz
Warranty:
Temperature range:’-40°+10°C
0.00฿
การแช่เย็น และการแช่แข็งอาหาร เพื่อเก็บรักษาวัตถุดิบอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ปรุงแล้ว เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราใช้งานในชีวิตประจำวันจนเราคุ้นชินกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการที่เราละลายเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแช่แข็งแล้วมีน้ำเลือดไหลออกมา หรืออาหารที่เราแช่ตู้เย็นมักจะมีเนื้อสัมผัสที่แห้ง ผิวนอกของอาหารมีลักษณะแห้งเหี่ยวลง เมื่อนำมาอุ่นร้อนใหม่เนื้อสัมผัสของอาหารไม่เหมือนเดิม หรือแม้กระทั่งผักผลไม้เกิดการเปลี่ยนสี และช้ำ คุณเคยสังเกตไหมคะว่าปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดกับอาหารที่เรานำมาแช่เย็นด้วยตู้เย็น หรือตู้แช่ที่ใช้งานทั่วไปในบ้านเรือน แต่กลับไม่พบปัญหาเหล่านี้ในอาหารแช่เย็นหรือแช่แข็งที่ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตอาหารหรือร้านอาหารที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบอาหารแช่เย็นหรือแช่แข็ง เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง เนื้อสัตว์แช่แข็ง หรือแม้แต่อาหารปรุงสำเร็จสำหรับที่จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า เมื่อนำมาปรุงอาหารหรืออุ่นร้อนก็ไม่ได้มีความแห้ง กระด้าง เหมือนกับอาหารที่เราแช่ไว้ในตู้เย็นบ้านปกติ นี่คือความลับของเทคนิคการเก็บรักษาคุณภาพและความสดของอาหารที่โรงงานแปรรูปอาหาร และร้านอาหารชั้นนำนำมาใช้ ซึ่งเรากำลังจะคุยกันต่อจากนี้ค่ะ
เริ่มต้นจากความเชื่อที่ว่า “อย่าใส่อาหารร้อนในตู้เย็นเพราะจะทำให้ตู้เย็นเสียและอาหารบูด” เป็นเรื่องที่เราทุกคนคงเคยได้ยิน และคงไม่มีใครนำเอาแกงที่เพิ่งขึ้นจากเตาร้อน ๆ มาแช่ในตู้เย็นเพื่อให้อาหารเย็นลงใช่ไหมคะ แน่นอนค่ะเพราะคอมเพรสเซอร์ตู้เย็นตามบ้านเรือนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยลดอุณหภูมิของอาหารได้อย่างรวดเร็ว หากเรานำเอาของร้อนเข้าไปแช่ คอมเพรสเซอร์จะทำงานหนักเกินกำลังจนเกินไป จนอาจเสียได้ เราจึงต้องพักอาหารร้อนไว้ในอุณหภูมิห้องให้เย็นลงก่อนที่จะนำเข้าตู้เย็น ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ
เทคโนโลยีที่โรงงานอาหารหรือร้านอาหารชั้นนำต่างนำมาใช้สำหรับช่วยลดอุณหภูมิอาหารปรุงสุกอย่างรวดเร็วเพื่อคุณภาพอาหารสูงสุด คือ การแช่เย็นอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “Blast Chiller”
Blast Chiller (การแช่เย็นแบบรวดเร็ว): เป็นการลดอุณหภูมิของอาหารจาก +90c ลงมาเหลือ +3c ภายในระยะเวลาไม่เกิน 90นาที ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับอาหาร โดยเฉพาะในแถบยุโรป โดยกระบวนการทำงานจะเป็นการให้ความเย็นพร้อมกับตีแรงลมเพื่อดึงเอาความร้อนออกจากอาหารให้เร็วที่สุด โดย Blast Chiller ของ Coldline มีการระบบช่วยปรับความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนอกของอาหารไม่สูญเสียน้ำ หรือแห้ง นอกจากนี้ยังสามารถปรับแรงลมเพื่อให้เหมาะสม สำหรับอาหารที่มีความบอบบาง เช่น เบเกอรี่ เนื้อปลา หรือผัก ผลไม้ต่าง ๆ จะยังคงคุณภาพความสดใหม่เหมือนเดิม
อาหารโดยทั่วไปต้องการการจัดเก็บอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการเน่าเสียจากการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ซึ่งจุลินทรีย์ต่าง ๆ นั้นสามารถแพร่ขยายตัวได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 4°c – 60°c (danger zone) ดังนั้นการตั้งอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิในช่วง danger zone เป็นระยะเวลานานเกินไป เช่น 3-4 ชั่วโมง จะทำให้แบคทีเรียมีการแพร่ขยายจำนวนจนส่งผลให้อาหารเสีย เครื่อง Blast Chiller จะช่วยดึงความร้อนออกจากอาหารอย่างรวดเร็วให้ผ่านช่วงอุณหภูมิ danger zone รวดเร็วที่สุด ทำให้อาหารมีความสด และมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งนอกจากมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารตามมาตรฐานสากล HACCP แล้ว การลดอุณหภูมิของอาหารด้วยเครื่อง Blast Chiller ของ Coldline ยังทำให้เราสามารถจัดเก็บอาหารปรุงสุกแล้วให้มีคุณลักษณะ สี รสชาติ เนื้อสัมผัส และสารอาหารคงเดิมมากที่สุด เพราะคุณภาพอาหารที่ดีที่สุด คืออาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จ
ตู้เย็นธรรมดา | Blast Chiller |
1. Evaporation :ผิวนอกของอาหารแห้ง จากการระเหยของน้ำซึ่งนำพาความชุ่มชื้นและคุณค่าทางสารอาหารไป โดยส่วนมากมักเกิดช่วงอุณหภูมิ 70c ขึ้นไป | 1. อาหารที่แช่เย็นยังคงความชุ่มชื้น เนื่องจากอาหารถูกลดอุณหภูมิให้ต่ำอย่างรวดเร็วทำให้การระเหยน้ำน้อย และมีการปรับค่าความชื้น RH ภายในเครื่องอย่างเหมาะสม ทำให้ผิวนอกของอาหารไม่แห้ง |
2. Overcooked: เนื่องจากความร้อนที่สะสมอยู่ในอาหารนั้นเปรียบเสมือนการปรุงอาหารไปเรื่อยจนทำให้อาหารเกิดความสุกเกินพอดี ผลลัพธ์คือ เนื้อสัมผัสนุ่มเละจนเกินไป สีซีด สารอาหารถูกทำลาย รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลง | 2. คุณลักษณะของอาหารเสมือนกับถูกล๊อคไว้ให้เหมือนอาหารขณะที่เพิ่งปรุงเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัส สีสัน รสชาติ เนื้อสัมผัส |
3. Danger zone: การลดอุณหภูมิอาหารปรุงสุกช้ากว่าการใช้ blast chiller จึงทำให้อาหารระยะเวลาที่อยู่ในช่วงอุณหภูมิวิกฤต (danger zone) นานกว่า การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่างๆในอาหารจึงมีมากกว่า | 3. การลดอุณหภูมิอาหารปรุงสุกได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้อาหารระยะเวลาที่อยู่ในช่วงอุณหภูมิวิกฤต (danger zone) ในระยะเวลาสั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่แช่เย็นมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค |
4. Shelf-life: เนื่องจากอาหารมีการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่าง ๆ ในอาหารจึงมีมากกว่า จึงทำให้ความสดของอาหารลดลงและระยะเวลาในการเก็บรักษาได้สั้นกว่า blast chiller | 4. อาหารคงความสด และสามารถเก็บรักษาได้ระยะเวลานานกว่า |
เนื่องจากข้อดีต่าง ๆ ของการลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทำให้อุตสาหกรรมอาหาร เช่น ผู้จำหน่ายอาหารแช่เย็น ครัวสายการบิน ครัวจัดงานเลี้ยง โรงแรม ร้านอาหาร ผู้ประกอบการอาหารคาว หวาน ต่างเลือกใช้ blast chiller เพื่อคงคุณภาพอาหาร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ช่วยลดขั้นตอน เวลา และค่าใช้จ่ายลง อีกทั้งยังทำให้มั่นใจว่าอาหารที่ปรุงเสร็จได้ถูกจัดเก็บตามมาตรฐาน เพื่อคุณภาพอาหารที่ดีที่สุด และความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า
Blast Freezer/Shock Freezer (การแช่เยือกแข็ง): เป็นการแช่แข็งอาหารอย่างรวดเร็ว โดยกระบวนการดึงความร้อนออกจากอาหารให้ได้เร็วที่สุด จึงเป็นการลดอุณหภูมิของอาหารจาก +90c ลงมาเหลือ -18c ภายในระยะเวลาไม่เกิน 240 นาที ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับอาหาร โดยกระบวนการทำงานจะเป็นการให้ความเย็น -40°c พร้อมกับตีแรงลมเพื่อดึงเอาความร้อนออกจากอาหารให้เร็วที่สุดพร้อมกับระบบช่วยปรับความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนอกของอาหารไม่สูญเสียน้ำ หรือแห้ง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะทำให้น้ำในอาหารเกิดการจัดเรียงตัวแบบละอองน้ำแข็งซึ่งเป็นผลึกขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า Micro Crystal ต่างจากการแช่แข็งด้วยตู้แช่แข็งทั่วไปที่นอกจากจะสามารถทำให้อาหารแข็งตัวได้ช้าแล้ว ผลึกน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งจะมีการฟอร์มตัวเป็นผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า Macro Crystal
เราจะสังเกตได้ว่าเวลาเรานำเอาน้ำใส่ในขวดพลาสติกจนเติมแล้วนำไปแช่แข็งด้วยตู้แช่ปกติ เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งแล้วจะเกิดการขยายตัวและดันขวดพลาสติกจนขวดเกิดความเสียหาย ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว น้ำที่บรรจุในขวดเปรียบเสมือนน้ำในเซลล์ของอาหาร ส่วนขวดพลาสติกคือผนังเซลล์ที่มีหน้าที่โอบอุ้มเก็บกักน้ำในอาหารให้เกิดความชุ่มชื้น และสารอาหารอื่น ๆ รวมถึงรสชาติของอาหารเอาไว้ เมื่อเราแช่แข็งด้วยกระบวนการปกติ น้ำแข็งผลึกใหญ่ (Macrocrystal) จะเกิดการดันผนังเซลล์ออกจนเสียหาย ทำให้วัตถุดิบสด หรืออาหารปรุงสุกของเราที่นำไปแช่แข็งด้อยคุณภาพลง ทั้งเนื้อสัมผัสที่เปื่อยยุ่ยลง ความชุ่มชื้นที่หายไป สูญเสียสารอาหาร สีสันซีดลงหรือช้ำไม่น่ารับประทาน ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้วัตถุดิบ หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแช่ด้วยตู้แช่ธรรมดา (Slow freezing) ไม่เป็นที่นิยมในการแช่แข็งวัตถุดิบอาหารสด (เนื้อสัตว์ แป้ง ผัก ผลไม้) อาหารปรุงสำเร็จ (frozen food) หรืออาหารพร้อมทาน (Ready to eat)
การแช่แข็งอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ แป้ง ผัก ผลไม้ หรืออาหารปรุงสำเร็จจึงมักจะใช้ Blast Freezer หรือเรียกอีกอย่างว่า Shock Freezer แช่แข็งอาหาร จนเมื่ออาหารแข็งตัวเรียบร้อย (อุณหภูมิแกนกลางอาหาร -18°c) จึงย้ายไปเก็บไว้ในตู้แช่แข็งธรรมดา หรือห้องเย็น เพียงเท่านี้อาหารที่เราแช่แข็งจะคงคุณภาพไม่ต่างจากอาหารสด เมื่อมีการละลายน้ำแข็งจะใช้ระยะเวลาที่เร็วกว่า เนื่องจากผลึกน้ำแข็งเป็นละอองขนาดเล็ก ที่สำคัญคือ เมื่อละลายแล้วจะไม่มีน้ำของอาหารไหลออกมา สี กลิ่น รส เนื้อสัมผัสของอาหารจะยังคงเดิม อาหารยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้ง ต่างจากการแช่ด้วยตู้แช่ธรรมดาที่เราคุ้นเคย
การแช่เยือกแข็งแบบช้า | การแช่เยือกแข็งแบบเร็ว |
1. ผลึกน้ำแข็งมีขนาดใหญ่กว่า | 1. ผลึกน้ำแข็งมีขนาดเล็กกว่า |
2. กระบวนการเมแทบอลิซึมเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ | 2. หุดกระบวนการเมแทบอลิซึม |
3. ใช้เวลานานกว่า | 3. ใช้เวลาน้อยกว่า |
4. เมื่อนำอาหารไปละลายน้ำแข็ง อาหารจะเสียคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า | 4. เมื่อนำอาหารไปละลายน้ำแข็ง อาหารจะเสียคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่า |
5. เซลล์ต่าง ๆ ถูกทำลายมากกว่า | 5. เซลล์ต่าง ๆ ถูกทำลายน้อยกว่า |
ที่มา: ชมพู่ ยิ้มโต (2550)
โรงงานผลิตอาหาร(Industry): การใช้ Blast Chiller/Shock Freezer เพื่อแช่เย็นและแช่แข็งอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารปรุงสุก ซึ่งระบบการทำงานของ Coldline รองรับมาตรฐานการผลิตอาหารสากล HACCP การใช้งานนั้นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นครัวสายการบินที่ใช้ลดอุณหภูมิอาหารปรุงสุก และแช่แข็งอาหารก่อนนำขึ้นเครื่องเพื่ออุ่นร้อนและเสิร์ฟแก่ผู้โดยสาร หรือผู้ผลิตวัตถุดิบแช่แข็ง เช่น ผลไม้แช่แข็ง เนื้อสัตว์แช่แข็งที่ใช้การแช่เยือกแข็งก่อนนำเข้าเก็บรักษาไว้ในห้องเย็น และที่นิยมอีกอย่างหนึ่งคืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน (Ready to eat) ก็ใช้งาน เครื่อง Blast Chiller/Shock Freezer ในการแปรรูปอาหารเช่นกัน
ร้านอาหาร(Restuarant): ร้านอาหารโดยมากจะใช้ตั้งแต่ขั้นตอนของการเก็บรักษาวัตถุดิบให้คงคุณภาพและความสด เช่น นำเอาเนื้อสัตว์ที่ซื้อมาแช่แข็งด้วย Blast Freezer ก่อนนำไปแช่แข็งตามปกติ หรือการลดอุณหภูมิของอาหารที่ปรุงเสร็จบางส่วน (pre-cook) แล้วเพื่อเก็บเตรียมไว้ปรุงต่อเมื่อลูกค้าสั่งอาหาร สำหรับครัวกลาง Blast Chiller/Shock Freezer เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้ในการเตรียมวัตถุดิบ ส่วนผสมต่าง ๆ ที่ปรุงจาก ครัวกลาง ก่อนส่งกระจายไปยังสาขา เพื่อรักษามาตรฐานของคุณภาพอาหาร และความสม่ำเสมอของสูตรอาหาร
ไอศกรีม(Gelato): นอกจากลักษณะเฉพาะของไอศรีม Gelato จะมีความนุ่มเบาแล้ว เนื้อสัมผัสยังมีความละเอียด ทำให้ขณะรับประทานรู้สึกเหมือนเนื้อไอศกรีมละลายในปากโดยไม่มีเกร็ดน้ำแข็งมาทำให้รู้สึกระคาย นี่เป็นเพราะการทำไอศกรีม Gelato จำเป็นต้องให้ความเย็นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การฟอร์มตัวของผลึกน้ำแข็งเล็กหรือ Microcrystal ทำให้เนื้อสัมผัสของไอศครีมมีความละเอียดและนุ่มที่สุด ในขณะเดียวกันส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใส่เข้าไปก็จะคงความสด รสชาติ สีสันที่น่ารับประทาน จึงทำให้ Gelato เป็นของหวานขึ้นชื่อที่สุดอย่างหนึ่งของอิตาลี
ขนมหวาน(Pastry): การทำของหวานต้องให้ความใส่ใจในการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้น ต่าง ๆ โดย Blast Chiller จะช่วยให้การเก็บรักษาเนื้อเค้กต่าง ๆ ให้ยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้ง ส่วน Blast Freezer จะช่วยในการทำให้โครงสร้างเนื้อสัมผัสของขนมมีความเนียนละเอียดอย่างที่ต้องการ นอกจากนี้การควบคุมอุณหภูมิที่เสถียร จะสามารถช่วยทำให้การขึ้นเงา chocolate (chocolate crystallization) เป็นเรื่องที่ง่าย และไม่ต้องอาศัยความชำนาญหรือการดูแลตลอดเวลา
Coldline เป็นผู้นำในเทคโนโลยีตู้ Blast Chiller/Shock Freezer ของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการทำความเย็นรวดเร็วชั้นนำของโลก จากประสบการณ์กว่า30 ปี ที่ได้มีการผลิต พัฒนา วิจัยสินค้ามาอย่างต่อเนื่องจนทำให้วันนี้ Coldline เป็นผู้นำที่พัฒนาการทำงาน Blast Chiller/Shock Freezer แบบ Multi-function ภายใต้แนวความคิดที่ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าได้ใช้งานเครื่อง Blast Chiller/Shock Freezer ของเราได้อย่างคุ้มค่าที่สุด จนเป็น Coldline Vision model :Multi-function Blast Freezer ซึ่งสามารถทำงานได้หลากหลายมากกว่าการทำการลดอุณหภูมิอาหารอย่างรวดเร็ว โดย Coldline Vision model นี้สามารถทำได้ทั้งความเย็นและทำความร้อนในเครื่องเดียวกัน temperature range: -40°c ถึง +85°c จึงทำให้ function รองรับการทำงานหลากหลาย ทำให้เครื่อง Blast Chiller/Shock Freezer สามารถใช้งานครอบคลุมและทดแทนอุปกรณ์ทำอาหารหลาย ๆ ชนิดไปได้ เช่น Retarder Prover,Dehydrator,Holding cabinet จึงทำให้เราสามารถใช้งานเครื่องได้นอกเหนือจากการขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ หรือจัดเก็บอาหาร หากแต่เราสามารถใช้ในการหมักแป้งขนมปัง อบแห้งเนื้อสัตว์ / ผลไม้ต่าง ๆ ใช้ละลายน้ำแข็งคุณสูง การขึ้นเงา Chocolate การอุ่นร้อนอาหารเพื่อเตรียมเสิร์ฟ การพาสเจอร์ไรซ์อาหาร การช่วยปรุงอาหารด้วยไอน้ำ (steaming) ซึ่งฟังก์ชั่นการทำงานเหล่านี้มาพร้อมกับสูตรมาตรฐาน (recipe) โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกการทำงานตามสูตรที่มีมา หรือจะตั้งค่าเพื่อสร้างสูตรอาหารเองได้
ควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัส tempered glass ขนาด7นิ้ว ทำให้การตั้งค่าและการตอบสนองเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว สามารถสั่งการเพียงกดแค่ปุ่มเดียว และบันทึกสูตรการทำงานของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตนเอง
ตั้งเวลาการทำงานที่ต้องการด้วยตนเอง หรือใช้ระบบ Devote ที่ช่วยคำนวณระยะเวลาการทำงานอัตโนมัติ
เลือกอุณหภูมิที่ต้องการสำหรับการแช่เย็น แช่เยือกแข็ง หรือสำหรับการทำงานประเภทอื่นๆเช่น การพรูฟแป้ง การอบแห้ง การละลายน้ำแข็ง หรือพาสเจอร์ไรซ์
ตั้งค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่ต้องการระหว่าง45%-90%
ตั้งค่าแรงลมให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท 25%-100%
เครื่องมาพร้อมกับสูตรพื้นฐานสำหรับการทำงานกับอาหารแต่ละประเภทที่มีรายละเอียดและความต้องการต่างกัน ซึ่งคุณสามารถสร้างสูตรเพิ่มเติมตามที่ต้องการได้ด้วย
คุณสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของสูตรการทำงานได้ตามที่ต้องการ
สามารถตั้งค่าการทำงานอัตโนมัติต่อเนื่องทั้งร้อนและเย็นได้
ตั้งค่าการทำงานแบบต่อเนื่อง โดยตั้งค่าอุณหภูมิ แรงลม และความชื้นที่ต้องการ
แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาหรืออุณหภูมิที่กำหนด
ล๊อคหน้าจอเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปรับค่าโดยพลการ
Coldline มีการพัฒนาโปรแกรม Cosmo เพื่อเชื่อมต่อระหว่าเครื่อง Blast Chiller/Shock Freezer เข้ากับมือถือผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลา แบบ anywhere,anytime และมีการแจ้งเตือนความผิดปกติของเครื่องระหว่างทำงาน ทำให้เราสามารถใช้งานเครื่องแบบ24/7 โดยไม่ต้องกังวล รวมถึงการวางแผนจัดการตารางการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Devote – ระบบอัจฉริยะ ช่วยให้การทำงานง่ายและประหยัดพลังงาน
Coldline ยังคำนึงถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน จึงมีการพัฒนาระบบDevote system ซึ่งจะเป็นตัวช่วยควบคุมอุณหภูมิและระยะการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงช่วยดูแลการใช้พลังงานของเครื่อง โดยอาศัยsensorที่ช่วยคำนวณเพิ่ม-ลดการทำงานของเครื่องให้เหมาะสมกับประเภทอาหารและปริมาณที่ใช้งานจริงในแต่ละครั้ง
สินค้ากลุ่ม Blast Chiller/Shock Freezer ของColdline มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่สำหรับการใช้งานในขนาดเล็กในบ้าน จนถึงการทำงานแบบอุโมงค์รถเข็น.
Coldline เรานำเสนอเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารสำหรับการผลิตอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งขนาดเครื่อง เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพการทำงานสำหรับการผลิต ที่ตอบโจทย์การผลิตอาหารทั้งคาวและหวาน
CUISINE CRAFT CO.,LTD
188/6 Supalai Premiere Ratchthewi Building, Petchburi Road, Thanon Petchburi, Ratchthewi, Bangkok 10400